ระเบียบกองทัพบก
ว่าด้วยการส่งและรับสิ่งอุปกรณ์
พุทธศักราช 2500
ดาวโหลด : วิชาการส่งและรับสิ่งอุปกรณ์
ตอนที่ 1
กล่าวทั่วไป
ข้อ 1. ความมุ่งหมาย เพื่อให้การส่ง และรับสิ่งอุปกรณ์ ดำเนินไปสมความมุ่งหมายของทางราชการจึงได้ตราระเบียบนี้ขึ้นไว้เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบและกรมมวิธีในการส่งและรับสิ่งอุปกรณ์ระหว่างที่ตั้งการส่งกำลังต่าง ๆ กับหน่วยผู้ใช้
ข้อ2 ระเบียบนี้ให้ชื่อว่า "ระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการส่งและรับสิ่งอุปกรณ์
พุทธศักราช 2500"
ข้อ 3. ระเบียบนี้ให้ใช้ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม พุทธศักราช 2501 เป็นต้นไป
ข้อ 4. คำจำกัดความ คำหรือข้อความต่าง ๆ ที่ใช้ในระเบียบนี้ให้มีความหมายดังต่อไปนี้.-
ก. การส่งและรับสิ่งอุปกรณ์ หมายถึงการส่งไป, การส่งกลับ และการรับสิ่งอุปกรณ์ระหว่าง หน่วยส่ง, หน่วยทหารขนส่งและหน่วยรับ
1) การส่งไป หมายถึง การส่งสิ่งอุปกรณ์ใน ล ักษณะใดล ักษ ณะหนึ่งดังนี้.
ก) การส่งสิ่งอุปกรณ์ จากท่าเรือไปยังคลังสายยุทธบริการ หรือคลัง สายบริการ ฝ่ายกิจการพิเศษ
ข) การส่งสิ่งอุปกรณ์ระหว่างคลังสายยุทธบริการ หรือคลังสายบริการฝ่าย กิจการ พิเศษ
ค) การส่งสิ่งอุปกรณ์จากคลังสายยุทธบริการ หรือคลังสายบริการฝ่ายกิจการ พิเศษไปยังส่วนภูมิภาคหรือหน่วยสายยุทธบริการที่สนับสนุนโดยตรงหรือหน่วยผู้ใช้
ง) การส่งสิ่งอุปกรณ์จากคลังส่วนภูมิภาคไปยังหน่วยสายยุทธบริการที่สนับสนุน โดยตรงหรือหน่วยใช้
จ)การส่งสิ่งอุปกรณ์จากหน่วยสายยุทธบริการที่สนับสนุนโดยตรง ไปยังหน่วย ผู้ ใช้
2) การส่งกลับ หมายถึง การปฏิบัติอันเป็นทางตรงกันข้ามกับการส่งไป
ข. หน่วยส่ง
1) ในการส่งไป "หน่วยส่ง" หมายถึงคลังสายยุทธบริการ, คลังสายบริการฝ่ายกิจการ พิเศษ คลังส่วนภูมิภาคและหน่วยสายยุทธบริการที่สนับสนุนโดยตรง ซึ่งมีหน้าที่แจกจ่าย สิ่งอุปกรณ์ตามสายการส่งกำลัง
2) ในการส่งกลับ “ หน่วยส่ง ” หมายถึง หน่วยผู้ใช้, หน่วยสายยุทธบริการที่สนับสนุน โดยตรง คลังส่วนภูมิภาค, คลังสายยุทธบริการ หรือคลังสายบริการฝ่ายกิจการพิเศษ ซึ่ง มีหน้าที่ในการส่งกลับสิ่งอุปกรณ์ตามสายการส่งกลับ
ค. หน่วยทหารขนส่ง หมายถึง หน่วยใด ๆ ของทหารขนส่ง ซึ่งรวมทั้งหน่วยสำนักงานหน่วย ปฏิบัติการ และหน่วยกำลังทหาร
ง. สำนักงานขนส่ง หมายถึง สำนักงานของทหารขนส่ง ซึ่งจัดไว้ในอัตราของกรมการขนส่ง ทหารบก คลังสายยุทธบริการ คลังสายบริการฝ่ายกิจการพิเศษ มณฑลทหารบก จังหวัดทหารบก หรือหน่วยทหารใด ๆ ที่มีอัตราสำนังานขนส่งระบุไว้เพื่อทำหน้าที่ทั้งปวงเกี่ยวกับการเคลื่อนย้าย กำลังพลและสิ่งอุปกรณ์ ในกรณีที่ยังมิได้บรรจุกำลังเจ้าหน้าที่ของสำนักงานขนส่งประจำหน่วยใด ดังกล่าวข้างต้นให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยนั้นจัดเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยของตนทำหน้าที่แทน สำนักงานขนส่งจนกว่าจะบรรจุกำลังเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งนั้น ๆ หากไม่สามารถดำเนินการ ได้ใน ครั้งคราวใด ให้หน่วยทหารขนส่งใกล้เคียงให้ความสนับสนุน
สำนักงานขนส่ง แบ่งออกตามภารกิจ ดังนี้.
1) สำนักงานขนส่งต้นทาง หมายถึง สำนักงานขนส่งซึ่งเป็นผู้ดำเนินการขนส่งสิ่ง อุปกรณ์จากตำแหน่งที่สิ่งอุปกรณ์ตั้งอยู่ไปยังสำนักงานขนส่งปลายทางหรือหน่วยรับ
2) สำนักงานขนส่งปลายทาง หมายถึง สำนักงานขนส่งซึ่งเป็นผู้ดำเนินการรับ
สิ่งอุปกรณ์ที่สำนักงานขนส่งต้นทางส่งมาแล้วส่งต่อไปจนถึงที่หมายปลายทาง
จ. หน่วยรับ
1) ในการส่งไป "หน่วยรับ" หมายถึง คลังสายยุทธบริการ คลังสายบริการฝ่ายกิจการ พิเศษ คลังส่วนภูมิภาค หน่วยสายยุทธบริการที่สนับสนุนโดยตรง และ หน่วยผู้ใช้ ซึ่ง มีหน้าที่รับสิ่งอุปกรณ์ตามที่หน่วยส่งจัดส่งมาตามสายการส่งกำลัง
2) ในการส่งกลับ “ หน่วยรับ ” หมายถึง หน่วยสายยุทธบริการที่สนับสนุนโดยตรง
คลังส่วนภูมิภาค คลังสายยุทธบริการ และคลังสายบริการฝ่ายกิจการพิเศษ ซึ่งมีหน้าที่รับ สิ่งอุปกรณ์ตามที่หน่วยส่งจัดส่งมา ตามสายการส่งกลับ
ฉ. คลังสายยุทธบริการ หมายถึง คลังที่จัดตั้งและควบคุมโดยสายยุทธบริการของ
กองทัพบกเพื่อส่งคลังที่จัดตั้งและควบคุมโดยสายยุทธบริการของกองทัพบกเพื่อส่งกำลังสิ่ง อุปกรณ์ตามชนิดและประเภทที่ได้รับมอบหมาย
ช. คลังสายบริการฝ่ายกิจการพิเศษ หมายถึง คลังที่จัดตั้งและควบคุมโดยสยบริการ ฝ่าย กิจการพิเศษของกองทัพบกเพื่อส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ตามชนิดและประเภทที่ได้รับมอบหมาย
ซ. คลังส่วนภูมิภาค หมายถึง คลังมณฑลทหารบก หรือคลังจังหวัดทหารบก ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อ ทำหน้าที่ส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ อันจำเป็นสำหรับสนับสนุนหน่วยผู้ใช้ต่าง ๆ ในพื้นที่มณฑลทหารบก หรือ จังหวัดทหารบกนั้น ๆ
ณ. หน่วยสายยุทธบริการที่สนับสนุนโดยตรง หมายถึง หน่วยสายยุทธบริการ ซึ่งมีภารกิจ สนับสนุนในด้านการส่งกำลังต่อ
1) หน่วยในอัตราการจัดของหน่วยระดับกองพลขึ้นไป (เช่น สพบ.พล.ม.เป็นต้น)
2) หน่วยภายในพื้นที่ซึ่งได้รับมอบหมายให้สนับสนุน
ญ. หน่วยผู้ใช้ หมายถึง หน่วยซึ่งมีหน้าที่ในการเบิก - รับ และเก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์ ใช้ภายใน หน่วยของตนเอง และให้ถือหน่วยขนาดกองพันหรือเทียบเท่าขึ้นไป รวมทั้งหน่วยซึ่งปฏิบัติ การ เป็นอิสระด้วย สำหรับระดับกองร้อยใช้ใบเบิกภายในหน่วย ( ทบ.400 – 006 ) โดยเก็บไว้ที่หน่วย
1ชุด (แก้ไขเพิ่มเติมคำชี้แจงที่30/22632(ครั้งที่1)27ก.ค. 02)
ค. ผู้เบิก หมายถึง ผู้มีอำนาจเบิกสิ่งอุปกรณ์ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
ต. ผู้สั่งจ่าย หมายถึง ผู้มีอำนาจอนุมัติในการจ่ายสิ่งอุปกรณ์ตามที่ผู้บังคับบัญชา
มอบหมาย
ถ. เอกสาร หมายถึง เอกสารทั้งปวงที่เกี่ยวข้องในการส่งและรับสิ่งอุปกรณ์ ซึ่ง กำหนดขึ้นเพื่อใช้กับระเบียบนี้ โดยจำแนกออกเป็นดังนี้ คือ
1) ใบเบิกและส่งสิ่งอุปกรณ์(ทบ.400-007) หมายถึง เอกสารซึ่งแสดงการขอเบิก สิ่งอุปกรณ์ของหน่วยรับ และถือเป็นหลักฐานทางบัญชีระหว่างหน่วยรับกับหน่วยส่ง
2) ใบส่งคืนและส่งสิ่งอุปกรณ์ (ทบ.400-014) หมายถึง เอกสารซึ่งแสดงความ ประสงค์ในการส่งสิ่งอุปกรณ์กลับตามสายการส่งกลับ โดยถือเป็นหลักฐานทาง บัญชีระหว่างหน่วยส่งกับหน่วยรับ
3) ใบรายการสิ่งอุปกรณ์ในหีบห่อ(ทบ.400-021) หมายถึง เอกสารซึ่งหน่วยส่งได้ จัดทำขึ้นเพื่อแสดงรายการและจำนวนสิ่งอุปกรณ์ที่บรรจุไว้ในหีบห่อนั้น ๆ
4)ใบขอการขนส่ง(ทบ.461-002) หมายถึง เอกสารซึ่งแสดงความประสงค์เพื่อให้ หน่วยทหารขนส่งดำเนินการเคลื่อนย้ายกำลังพลและสิ่งอุปกรณ์ให้
5) ใบตราส่ง(ทบ.461-003) หมายถึง เอกสารซึ่งสำนักงานขนส่งจัดทำขึ้นเพื่อเป็น หลักฐานรับมอบสิ่งอุปกรณ์ที่สำนักงานขนส่งรับไป และรับว่าจะทำการขนส่งสิ่ง อุปกรณ์ให้ตามรายการซึ่งปรากฏในใบตราส่งนอกจากนั้นยังเป็นหลักฐานที่ สำนักงานขนส่งใช้ในการส่งมอบสิ่งอุปกรณ์ให้แก่หน่วยรับ โดยปกติใบตราส่งย่อม จัดทำขึ้นโดยอาศัยใบขอการขนส่งเป็นมูลฐาน
6)ใบกำกับสิ่งอุปกรณ์ประจำพาหนะ(ทบ.461-004)หมายถึง เอกสารซึ่งหน่วย ปฏิบัติการขนส่งจัดทำขึ้นประกอบใบตราส่ง เพื่อแสดงจำนวนสิ่งอุปกรณ์บนยาน พาหนะแต่ละคันตามความเหมาะสม
ท. การปฏิบัติต่อสิ่งอุปกรณ์โพ้นทะเล หมายถึง การรับสิ่งอุปกรณ์จากต่างประเทศและ การส่งสิ่งอุปกรณ์ไปนอกประเทศ
ตอนที่ 2
การส่งไป
ข้อ 5. กรรมวิธีในการเบิกจ่าย
ก. หน่วยรับ ทำใบเบิกและส่งสิ่งอุปกรณ์ 4 ฉบับ ฉบันที่ 4 เก็บไว้เพื่อตรวจสอบและถือเป็น หลักฐานของหน่วยในระหว่างรอรับสิ่งอุปกรณ์อีก 3 ฉบับ ให้ส่งไปยังหน่วยส่ง
ข. หน่วยส่ง
1) รับใบเบิกและส่งสิ่งอุปกรณ์ 3 ฉบับ ที่หน่วยรับส่งมา (1,2,3)
2) ตรวจสอบใบเบิก
3) นำเสนอผู้สั่งจ่ายเพื่ออนุมัติ
4) ส่งใบเบิกและส่งสิ่งอุปกรณ์ฉบับที่ 2 และ 3 ซึ่งได้รับอนุมัติไปกับสิ่งอุปกรณ์หรือล่วง หน้า ฉบับที่ 1 และฉบับที่ 3 ซึ่งจะเก็บไว้เป็นหลักฐานของหน่วยส่ง
5) หากเจ้าหน้าที่ของหน่วยมารับสิ่งอุปกรณ์เองให้ลงชื่อไว้ในเบิกและส่งสิ่งอุปกรณ์ ฉบับที่ 1 และ 3 ซึ่งจะจะเก็บไว้เป็นหลักฐานของหน่วยส่ง หากเจ้าหน้าที่ของหน่วยมารับ สิ่งอุปกรณ์เองให้ลงชื่อไว้ในใบเบิกและส่งสิ่งอุปกรณ์ ฉบับที่ 1 และ 3 ซึ่งจะเก็บไว้เป็น หลักฐานของหน่วยส่ง
ค. แบบและวิธีเขียนใบเบิกสิ่งอุปกรณ์
1) ประเภท 1,2,3 และ 4 ดูผนวก ก.
2) ประเภท 5 ดูผนวก ก.1
ข้อ 6. กรรมวิธีในการส่งและรับสิ่งอุปกรณ์
ก. การปฏิบัติของหน่วยส่ง
1)ในกรณีที่หน่วยส่งส่งสิ่งอุปกรณ์ให้หน่วยรับโดยผ่านหน่วยทหารขนส่ง
ก) ให้หน่วยส่งส่งใบเบิกและส่ง สป.หรือใบส่งคืนและส่ง สป.ซึ่งจะต้องส่งไปให้ หน่วยรับล่วงหน้า หรือส่งไปพร้อมกัน สป. นั้นแนบไปพร้อมกับใบขอการขนส่งและให้ สขส.จัดส่งไปให้หน่วยรับต่อไป โดยจะส่งไปล่วงหน้าหรือส่งไปพร้อม สป.ก็ได้แล้ว แต่ความเหมาะสมเว้นในกรณีการโอนและการแจกจ่ายโดยอัตโนมัติ เช่น การ ปลดเปลื้องการค้างจ่าย, การจ่ายตามอัตราแบ่งมอบ เป็นต้น ให้หน่วยอ้างถึงที่ของ เอกสารที่หน่วยเหนืออนุมัติไว้ในใบขอการขนส่ง
ข) ทำใบรายการสิ่งอุปกรณ์ในหีบห่อขึ้น 2 ฉบับ (แบบและวิธีเขียนดูผนวก ค.)เก็บ ไว้ที่หน่วยส่ง1ฉบับอีก 1 ฉบับ บรรจุไปกับหีบห่อพร้อมสิ่งอุปกรณ์หากไม่สามารถ บรรจุไว้ใน หีบห่อได้ให้ผูกมัดไปกับสิ่งอุปกรณ์เว้นสิ่งอุปกรณ์ที่มีรายการเดียว ซึ่งมี ป้ายแสดงชนิดและจำนวนไว้ภายนอกหีบห่อนั้นแล้ว
ค) จัดการบรรจุสิ่งอุปกรณ์ตามระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการทำหีบห่อ และทำ เครื่องหมายเพื่อการขนส่งสิ่งอุปกรณ์ พุทธศักราช 2499
ง) ทำใบขอการขนส่งขึ้น3ฉบับ(แบบและวิธีเขียนดูผนวก ง.)
(1) เก็บไว้ที่ที่หน่วยส่ง 1 ฉบับ
(2) อีก 2 ฉบับ ส่งไปยังสำนักงขนส่งต้นทางซึ่งสนับสนหน่วยส่งนั้น
(3) ในกรณีที่มีความเร่งด่วนเป็นพิเศษอาจขอการขนส่งด้วยเครื่องมือสื่อสาร ที่เหมาะสม โดยแจ้งรายละเอียดพอที่ให้สำนักงานขนส่งปฏิบัติได้ แล้วจึง ยืนยันด้วยใบขอการ ขนส่งตามไปภายใน 48 ชม.
(4) ใบขอการขนส่งเพื่อส่งสิ่งอุปกรณ์อันตรายไวเพลิงให้หน่วยส่งประทับ ตราว่า "อันตรายไวเพลิง" ด้วยอักษรสีแดง ขนาด 2 ซม. ไว้ที่ด้านหลัง
จ) มอบสิ่งอุปกรณ์ให้กับสำนักงานขนส่งต้นทาง โดยรับใบตราส่งไว้แทน สิ่ง อุปกรณ์ ที่สำนักงานขนส่งรับไป
ฉ) แจ้งข่าวสารการส่งสิ่งอุปกรณ์ครั้งคราวนั้นๆ ให้หน่วยรับทราบล่วงหน้า
ช) ทำสถิติการส่งสิ่งอุปกรณ์ครั้งคราวนั้น
2) ในกรณีที่หน่วยรับ มารับสิ่งอุปกรณ์จากหน่วยส่งเอง
ก) แจ้งให้หน่วยรับทราบกำหนดวันในการรับสิ่งอุปกรณ์
ข)จ่ายสิ่งอุปกรณ์พร้อมทั้งหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้แก่หน่วยรับ
ค) ทำสถิติการจ่ายสิ่งอุปกรณ์ครั้งคราวนั้น
ข.การปฏิบัติของสำนักงานขนส่ง
1) สำนักงานขนส่งต้นทาง เมื่อสำนักงานขนส่งต้นทางได้รับใบขอการขนส่งจากหน่วย ส่งเพื่อทำการส่งสิ่งอุปกรณ์ ให้ปฏิบัติดังนี้
ก) เมื่อพร้อมที่จะทำการขนส่งให้เมื่อใดจะได้แจ้งกำหนดเวลาที่จะส่งพาหนะมายัง หน่วยส่งและรายละเอียดที่จำเป็นอื่น ๆ ให้ทราบ
ข) ทำ "ใบตราส่ง" ขึ้น5 ฉบับ (แบบและวิธีเขียน ดูผนวก จ.)
(1) ฉบับที่1สำนักงานขนส่งต้นทางเก็บไว้เป็นหลักฐาน
(2) ฉบับที่ 2 มอบให้หน่วยส่งไว้แทนสิ่งอุปกรณ์ที่รับไป
(3) ฉบับที่ 3,4 และ 5 ส่งไปยังสำนักงานขนส่งปลายทาง และให้สำนักงาน ขนส่งปลายทางนำไปให้หน่วยรับลงนามในขณะส่งมอบสิ่งอุปกรณ์ทั้ง 3 ฉบับ ฉบับที่ 3 สำนักงานขนส่งปลายทางเก็บไว้เป็นหลักฐาน ฉบับที่ 4 หน่วยรับ เก็บ ไว้เป็นหลักฐานและฉบับที่ 5 ส่งกลับมายังสำนักงานขนส่งต้นทาง
ค) หากการขนส่งร่วมกับกองทัพเรือ กองทัพอากาศ ให้ทำใบตราส่งเพิ่มขึ้นอีกตาม ความจำเป็น
* *ข้อง.หมายเหตุแก้ตามคำสั่ง ทบ.(ชี้แจง) ที่ 13/11673 (ครั้งที่ 2) ลง 31 พ.ค.03
ง) การส่งสิ่งอุปกรณ์อันตรายไวเพลิง ให้สำนักงานขนส่งต้นทางประทับตราบน ใบตราส่งทุกฉบับว่า “ อันตรายไวเพลิง ” ด้วยอักษรสีแดง ขนาด 2 ซม.
จ) ในกรณีที่หน่วยปฏิบัติการขนส่ง ต้องทำการขนส่งสิ่งอุปกรณ์จำนวนมาก และ เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบจำนวนหีบห่อ ให้หน่วยปฏิบัติการขนส่งใช้ใบกำกับ สิ่งอุปกรณ์ประจำพาหนะ ประกอบกับใบตราส่งตามความจำเป็น (แบบและวิธีเขียนดู ผนวก ฉ)
ฉ)ดำเนินการส่งสิ่งอุปกรณ์ตามประเภทการขนส่งที่เหมาะสม
ช) ทำสถิติการส่งสิ่งอุปกรณ์ครั้งคราวนั้น
2) การปฏิบัติของสำนักงานขนส่งปลายทาง
ก) เมื่อทราบว่าสิ่งอุปกรณ์จะมาถึง ให้ปฏิบัติดังนี้
(1)เตรียมการ ในเรื่องการรับมอบสิ่งอุปกรณ์จากหน่วยทหารขนส่งหรือเจ้า หน้าที่ขนส่งพาณิชย์
(2) แจ้งให้หน่วยรับทราบถึงจำนวนสิ่งอุปกรณ์ และ วัน เวลาที่จะมาถึง
(3) เตรียมแรงงานและเครื่องมือในการยกขน
ข) เมื่อสิ่งอุปกรณ์มาถึงตำบลขนถ่าย
(1) รับเอกสารที่เกี่ยวข้องจากเจ้าหน้าที่ขนส่งพาณิชย์
(2) รับมอบสิ่งอุปกรณ์จากเจ้าหน้าที่ขนส่งพาณิชย์
(3) ขนถ่ายสิ่งอุปกรณ์จากพาหนะของการขนส่งพาณิชย์สู่พาหนะของหน่วย ปฏิบัติการขนส่ง
(4) ขนสิ่งอุปกรณ์ไปยังหน่วยรับ
ค) เมื่อสิ่งอุปกรณ์มาถึงหน่วยรับ ส่งมอบสิ่งอุปกรณ์ให้แก่หน่วยรับ ณ ที่ตั้งหน่วย รับและปฏิบัติตามกรรมวิธีซึ่งกล่าวไว้ในข้อ 6 ข. 1.ข. (3)
ง) จัดการเกี่ยวกับการเดินทางของสารวัตรทหาร หรือเจ้าหน้าที่ กำกับทาง เทคนิค(ถ้ามี)
จ) ทำสถิติการรับสิ่งอุปกรณ์ครั้งคราวนั้น
ค. การปฏิบัติของหน่วยรับ
1) ในกรณีที่หน่วยรับ รับมอบสิ่งอุปกรณ์จากสำนักงานขนส่ง
ก) หน่วยรับอาจได้รับ
(1) ใบเบิกและส่ง สป.ฉบับที่ 2 และ 3 ซึ่งหน่วยส่งส่งมาล่วงหน้า
(2) ข่าวสารการส่งสิ่งอุปกรณ์ซึ่งหน่วยส่งแจ้งมา
(3) ข่าวสารแสดง วัน เวลา ที่สิ่งอุปกรณ์จะมาถึง ซึ่งสำนักงาน ขนส่งปลายทาง จะแจ้งให้ทราบ
ข) รับมอบจำนวนหีบห่อสิ่งอุปกรณ์ จากสำนักงานขนส่งปลายทาง ลงชื่อใน ใบตราส่งทั้ง 3ฉบับ และเก็บฉบับที่ 4 ไว้เป็นหลักฐาน
ค) การตรวจรับสิ่งอุปกรณ์ภายในหีบห่อ ให้จัดตั้งกรรมการตรวจรับสิ่งอุปกรณ์ขึ้น3 นาย โดยมีนายทหารสัญญาบัตรอย่างน้อย 2 นาย และควรมีเจ้าหน้าที่สายยุทธบริการ หรือเจ้าหน้าที่สายบริการฝ่ายกิจการพิเศษ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย
ง) เมื่อคณะกรรมการได้ตรวจและลงนามรับรองในใบเบิกและส่งสิ่งอุปกรณ์แล้วให้ เจ้าหน้าที่ผู้รับ
จ) เจ้าหน้าที่ผู้รับ รับมอบและลงนามในใบเบิกและส่ง สป.(ทบ.400-007)
ฉ) ในการรับจะต้องนำใบเบิกและส่งสิ่งอุปกรณ์ของหน่วยฉบับที่ 4 มาตรวจสอบกับ ใบเบิกและส่งสิ่งอุปกรณ์ฉบับที่ 2หากจำนวนไม่ตรงกันให้บันทึกไว้ในใบเบิกฉบับที่ 4 และใช้ใบเบิกและส่งสิ่งอุปกรณ์ ฉบับที่ 4 ประกอบการรายงานตาม สายการบังคับ บัญชา
ช) เก็บใบเบิกและส่งสิ่งอุปกรณ์ฉบับที่2ไว้เป็นหลักฐานของหน่วย
ซ) ทำสถิติการรับสิ่งอุปกรณ์ครั้งคราวนั้น
2) ในกรณีที่หน่วยรับไปรับสิ่งอุปกรณ์ ณ ที่ตั้งหน่วยส่ง
ก) สอบใบเบิกฉบับที่ 4 กับฉบับที่ 1, 2, 3 ที่หน่วยส่ง
ข) รับสิ่งอุปกรณ์จากหน่วยส่ง
ค) ลงนามรับสิ่งอุปกรณ์ในใบเบิกฉบับที่ 1, 3
ง) รับใบเบิกฉบับที่ 2 ไว้เป็นหลักฐานของหน่วยรับ
จ) ขนส่งสิ่งอุปกรณ์มายังหน่วยรับ
ฉ) ทำสถิติการรับสิ่งอุปกรณ์ ครั้งคราวนั้น
ข้อ 7. กรรมวิธีในการส่งมอบเอกสาร
ก. เมื่อหน่วยส่งมีความประสงค์จะส่งเอกสารที่เกี่ยวกับการส่งสิ่งอุปกรณ์ในครั้งคราว นั้น ไปให้หน่วยรับ ให้มอบเอกสารกับเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งต้นทาง เจ้าหน้าที่สำนักงาน ขนส่งที่ เกี่ยวข้องจะต้องส่งมอบเอกสารนั้นต่อไปจนถึงหน่วยรับ
ข.หากมีการส่งสิ่งอุปกรณ์โดยการขนส่งพาณิชย์ ให้เจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งต้นทาง มอบเอกสารในการส่งสิ่งอุปกรณ์ทั้งสิ้นในครั้งคราวนั้นให้เจ้าหน้าที่ควบคุมพาหนะของการ ขนส่งพาณิชย์นั้น ๆ เพื่อนำไปยังสถานีปลายทาง ทั้งนี้ ทบ.จะเป็นผู้ตกลงรายละเอียดกับ การขนส่งพาณิชย์เป็นราย ๆ ไป
ค. สำนักงานขนส่งปลายทางหรือหน่วยรับจะต้องขอรับเอกสารจากเจ้าหน้าที่การขนส่ง พาณิชย์ ณ สถานีปลายทาง หากสำนักงานขนส่งปลายทางเป็นผู้รับเอกสารนี้จะต้องนำไป มอบให้หน่วยรับต่อไป
ข้อ 8. การบรรทุกและการยึดตรึง
ก. การขนขึ้น เมื่อสำนักงานขนส่งต้นทางส่งพาหนะไปรับสิ่งอุปกรณ์จากหน่วยส่ง ให้ หน่วยส่งดำเนินการขนส่งสิ่งอุปกรณ์ขึ้นบนพาหนะภายใต้การกำกับการของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ การขนส่งกับให้เจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งตรวจสภาพหีบห่อ หากเห็นว่าไม่รัดกุมเพียงพอก็ ให้หน่วยส่งจัดการ แก้ไขเสียใหม่ ส่วนการยึดตรึงนั้นให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานขนส่ง
ข. การขนถ่าย ระหว่างการขนส่งสิ่งอุปกรณ์เมื่อจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนประเภทการขนส่ง หรือเปลี่ยนพาหนะให้หน่วยทหารขนส่งดำเนินการขนถ่ายสิ่งอุปกรณ์นั้นจนเป็นที่เรียบร้อย
ค. การขนลง เมื่อหน่วยปฏิบัติการขนส่งนำพาหนะที่บรรทุกสิ่งอุปกรณ์ไปถึงหน่วยรับแล้ว ให้เจ้านห้าที่หน่วยสำนักงานขนส่งปลดเครื่องยึดตรึงออก และให้หน่วยรับดำเนินการขนสิ่ง อุปกรณ์ลงจากยานพาหนะภายใต้การกำกับการของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการขนส่ง
ง. การกำกับการ ในกรณีที่หน่วยส่งพิจารณาเห็นว่าการส่งสิ่งอุปกรณ์ใดควรกำกับการ ทางเทคนิคก็ให้หน่วยส่งจัดเจ้าหน้าที่กำกับการตามความจำเป็นและให้สำนักงานขนส่ง จัดการเกี่ยวกับ การเดินทางให้
จ. การว่าจ้าง ในการขนขึ้น ขนถ่าย และขนลงหากไม่มีเครื่องมือยกขนหรือแรงงาน หรือ สิ่งอุปกรณ์มีลักษณะหรือจำนวนเกินขีดความสามารถของเครื่องมือยกขน หรือแรงงานที่มีอยู่ ให้หน่วยที่รับผิดชอบในการขนขึ้น ขนถ่ายและขนลง ว่าจ้างเครื่องมือยกขนหรือแรงงาน เพื่อ ดำเนินการดังกล่าวแล้วได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยที่รับ ผิดชอบนั้น ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น